Search
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
฿
0.00
0
Cart
ผลิตภัณฑ์
โปรโมชั่น
ร้านค้าออนไลน์
บทความและกิจกรรม
เกี่ยวกับโฟร์โมสต์
ติดต่อโฟร์โมสต์
ประวัติและวิสัยทัศน์
ร่วมงานกับเรา
มาตรฐานการผลิตนม
นโยบายความเป็นส่วนตัว
สิทธิประโยชน์สมาชิก
สะสมคะแนนแลกของรางวัลสุดพิเศษ
แลกของรางวัล
Menu
ผลิตภัณฑ์
โปรโมชั่น
ร้านค้าออนไลน์
บทความและกิจกรรม
เกี่ยวกับโฟร์โมสต์
ติดต่อโฟร์โมสต์
ประวัติและวิสัยทัศน์
ร่วมงานกับเรา
มาตรฐานการผลิตนม
นโยบายความเป็นส่วนตัว
สิทธิประโยชน์สมาชิก
สะสมคะแนนแลกของรางวัลสุดพิเศษ
แลกของรางวัล
สั่งซื้อออนไลน์
฿
0.00
0
Cart
Home
/
บทความ
/
เลี้ยงลูกให้ฉลาดสร้างได้ ด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการของเด็ก
หน้าแรก
/
บทความ
/
คุณประโยชน์ของนม
/
เลี้ยงลูกให้ฉลาดสร้างได้ ด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการของเด็ก
เลี้ยงลูกให้ฉลาดสร้างได้ ด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการของเด็ก
หลังจากที่ลูกน้อยลืมตาดูโลก เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนคงเฝ้าดูพัฒนาการของลูกในทุกๆ วันด้วยความตื่นเต้น ทั้งเรื่องของพัฒนาการทางสมองและด้านร่างกายของลูก ซึ่งในช่วงวัยเด็กเล็ก เด็กปฐมวัย เป็นช่วงที่สมองของลูกจะพัฒนาอย่างรวดเร็วมาก คุณแม่จะสังเกตได้จากพฤติกรรมทางร่างกายที่พัฒนาได้อย่างรวดเร็วเช่นกันค่ะ และการพัฒนาการนี้ มีช่วงเวลาที่จำกัด หลังจากผ่านพ้นช่วงนี้ไป สมองจะมีการตัดแต่ง เพื่อรักษาส่วนที่ใช้งาน และส่วนที่ไม่ใช้งานจะสลายไป สมองของเด็กในช่วงวัย 6 ขวบแรก เติบโตได้ถึง 90% และในส่วนของร่างกายช่วงวัยเด็กเล็กนั้น เป็นช่วงการสร้างรากฐานที่มั่นคงแข็งแรงในวัยแห่งการเรียนรู้ของลูกน้อยต่อไป
พฤติกรรมและพัฒนาการของเด็กตามช่วงวัยของลูกน้อย
ในแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย จะมีพัฒนาการเจริญเติบโตและพฤติกรรมด้านต่างๆ ตามช่วงอายุที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรให้ความสนใจ และกระตุ้นพัฒนาการลูกน้อยอยู่เสมอ ดังนี้ค่ะ
วัยแรกเกิด – 6 เดือน
ในช่วง 3 เดือนแรก เป็นช่วงรากฐานแห่งการเติบโตและต้องการการดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกจะถูกพัฒนาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องหลังแรกเกิด สมองช่วงนี้จะขยายตัวอย่างรวดเร็ว สมองทุกส่วนจะพัฒนาพร้อมๆกัน จะเห็นพฤติกรรมพัฒนาการของเด็กชัดเจน เช่น การดูด การกางนิ้ว การพัฒนากล้ามเนื้อต่างๆ ลูกจะเริ่มจดจำใบหน้า คุณพ่อคุณแม่ได้ เด็กจะสื่อสารกับพ่อแม่ผ่านทาง ท่าทาง น้ำเสียง การหัวเราะ ร้องไห้ เริ่มจดจำเสียงพ่อแม่ได้ สามารถขยับตัวได้มาก เช่น พลิกตัว คว่ำหงาย และ นั่ง
6 – 12 เดือน
ช่วงนี้ร่างกายจะสร้างกล้ามเนื้อมัดต่างๆ ให้แข็งแรงขึ้น เพื่อพัฒนาไปยังการใช้ร่างกายที่มากขึ้น เช่น เริ่มคลาน ตั้งไข่ และเดินกระเตาะกระแตะ ส่วนพัฒนาการทางสมอง จะมีพฤติกรรมชอบทำอะไรซ้ำๆ โดยช่วงนี้สมองส่วนความจำจะพัฒนาอย่างมาก เพื่อพร้อมสำหรับการเรียนรู้ทุกประเภท โดยจะสร้างความจำและมีการเรียนรู้จากพฤติกรรมของคนรอบข้าง เช่น การโบกไม้โบกมือ ก้มหัวสวัสดี พูดคำสั้นๆง่ายๆได้ อย่าง แม่ พ่อ กิน ช่วงวัยนี้คุณพ่อคุณแม่จะเห็นนิสัยที่ชัดเจนขึ้น จากกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ ที่เจ้าตัวน้อยชอบทำนั่นเอง
วัย 1 ปี
ระยะนี้เป็นช่วงเวลาที่กำลังน่ารักและซนของลูกเนื่องจากสมองจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% ของผู้ใหญ่ เซลล์ต่างๆ มีการขยายอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ถือเป็นช่วงเริ่มต้นของวัยทองแห่งการเรียนรู้ นั่นคือพัฒนาการของเครือข่ายใยประสาท โดยสมองจะทำหน้าที่ประสานกันในการควบคุมร่างกาย ให้ยืน เดิน กระโดด ได้ดีขึ้น การรับข้อมูลผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 7 การประมวลข้อมูล และการตอบสนอง เป็นช่วงเริ่มต้นของการเลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย และร่างกายที่เจริญเติบโตได้อย่างเต็มที เด็กจะจดจำคำศัพท์ได้เยอะขึ้น เริ่มพูดคำ 2-3 คำได้ หยิบอาหารกินเองได้ เริ่มเห็นนิสัยที่ชัดเจนมากขึ้น เดินได้ด้วยตัวเอง
วัย 2 ปี
ช่วงนี้เป็นช่วงเตรียมพร้อมก่อนเข้าโรงเรียนและมีพฤติกรรมชอบทำตามเด็กวัยเดียวกัน เด็กสามารถจดจำใบหน้าและชื่อคนทั่วไปได้ดี เพิ่มจำนวนการจดจำชื่อของคนในครอบครัวและเพื่อนบ้านหรือเพื่อนเล่นได้ รวมถึงสามารถบอกชื่อตัวเอง กินข้าวเองได้ ทำกิจกรรมง่ายๆ ด้วยตัวเอง เช่น ร้องเพลง เต้นตามจังหวะเป็นท่าทางต่างๆ
วัย 3-4 ปี
สมองเพิ่มน้ำหนักเป็น 60% และจะพัฒนาสติปัญญาให้เพิ่มขึ้นด้านสิ่งแวดล้อม กิจกรรม การเรียนรู้คำศัพท์ ภาษา ความอยากรู้อยากเห็น และความคิดที่มีเหตุผลมากขึ้น จะเริ่มมีคำถามที่ซับซ้อนขึ้น คุณแม่สามารถเสริมทักษะต่างๆ ให้ลูกได้ในช่วงเวลานี้ เช่น มีกิจกรรมร่วมกันกับเจ้าตัวน้อย เล่นเกม เล่านิทานเสริมจินตนาการ โดยเครือข่ายใยประสาทก็ยังพัฒนาต่อในช่วงวัยนี้ เพราะจะช่วยให้ลูกสามารถคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาง่ายๆ ได้ด้วยตนเอง เล่าเรื่องต่างๆที่พบเจอด้วยตนเองหรือจำจากที่คุณแม่เล่าได้ดีขึ้น
วัย 5-6 ปี
ช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่สมองสั่งการให้เด็กๆ ควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นมากแล้ว สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แบบเด็กที่โตแล้ว มีการเรียนรู้ประสบการณ์ มีความจำ คิดคำนาณได้ เช่น การบวกเลขหลักเดียว สามารถอยู่ตามลำพังโดยไม่ต้องมีคนดูแลตลอดเวลาได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ คุณแม่ควรพาลูกออกไปพบกับผู้คน ได้ท่องเที่ยวในโลกกว้างได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ถือเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยเรื่องพัฒนาการสมอง พัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์และสังคม เป็นไปในทางที่ดี
เพราะพัฒนาการด้านสมองและร่างกายมีความสัมพันธ์กัน คุณแม่ควรให้ความสำคัญกับทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กัน เด็กที่มีพัฒนาการที่ดี ก็จะช่วยให้สุขภาพจิตดีไปด้วย ทั้งนี้เป็นพัฒนาการโดยรวมตามช่วงอายุปกติของเด็กเล็ก อาจจะมีช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่ หลังจากช่วงอายุนี้การสร้างเครือข่ายใยประสาทจะลดลงและส่วนที่ไม่ได้ใช้ก็จะถูกตัดแต่งให้หายไป เพราะฉะนั้นช่วงอายุ 0 – 6 ปี เป็นช่วงที่สำคัญในการพัฒนาสมองและร่างกายของลูก และสิ่งสำคัญที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด คืออาหารที่ถูกหลักโภชนาการของลูกน้อย
“นม” อาหารที่เหมาะสมและจำเป็นต่อลูกน้อย
หากคุณแม่อยากเลี้ยงลูกน้อยให้เป็นเด็กฉลาดเติบโตและแข็งแรงสมวัย อาหารคือสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะวัยเริ่มต้น โดยเฉพาะช่วง 1-6 ขวบ เพราะจะส่งผลในระยะยาวโดยเฉพาะพัฒนาการสมอง อาหารที่คุณแม่เลือกจึงต้องมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองและร่างกายของลูกน้อย ถึงจะพัฒนาการของแต่ล่ะช่วงวัยที่แตกต่างกันแต่อาหารที่เหมาะสมและขาดไม่ได้คือ กรดอะมิโนและโอเมก้า 3,6 และ 9 ซึ่งมีอยู่ในนม เพราะ ‘นม’ ขึ้นชื่อว่าเป็น อาหารสำคัญที่สุดตั้งแต่แรกเกิด ในนมมีโปรตีนที่สำคัญมากต่อการพัฒนาร่างกายและสมองเด็ก รวมถึงสารอาหารที่สำคัญอย่าง ‘กรดอะมิโนจำเป็น’ หลังจากลูกน้อยหย่านมแม่แล้วต้องมั่นใจว่า นมที่เลือกมาให้ลูกน้อยทานต่อนั้นจะมีสารอาหารจำเป็นและมีกรดอะมิโนครบถ้วน นอกจากนี้ในนมยังมีสารอาหารที่สำคัญอื่นๆ ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟระบุไว้ว่ามีผลต่อการเจริญเติบโต สร้างภูมิคุ้มกัน และพัฒนาการสมองให้เฉลียวฉลาดทางสติปัญญา (IQ) และโภชนาการที่ดีจะยังส่งเสริมความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ด้วย ได้แก่ แคลเซียม วิตามินเอ สังกะสี วิตามินอี โปรแตสเซียม วิตามินซี แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินดี
โดยประโยชน์ของกรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิด (ไอโซลีน, ลูซีน, ไลซีน, เมไธโอนีน, เฟนิลอะลานีน, ธรีโอนีน, ทริฟโตเฟน, เวลีน, ฮิสติดีน) นั้นช่วยเสริมความจำ พัฒนาสมองเพิ่มพลังให้กล้ามเนื้อ และช่วยให้เซลล์ประสาทแข็งแรงขึ้น รวมไปถึงเสริมสมาธิ เสริมสร้างการเจริญเติบโตและเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ ที่สำคัญ กรดอะมิโนฮิสติดีน ยังมีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก และช่วยการทำงานของระบบประสาทและสมองในเด็กอีกด้วย โดยกรดอะมิโนทั้ง 9 ชนิดนี้ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องอาศัยจากการรับประทานอาหารต่างๆ และนมเท่านั้น นอกจากสารอาหาร 9 ชนิด เด็กในวัยเจริญเติบโต ยังต้องการสารอาหารพัฒนาสมองเพิ่มเติมคือ DHA ไอโอดีน วิตามินบี12 ธาตุเหล็ก และ โฟเลตอีกด้วย
เห็นไหมคะว่าสารอาหารสำคัญของลูกน้อยนั้น จำเป็นต่อการสร้างพัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ ในแต่ละช่วงวัยของลูกน้อยให้เติบโตสมวัย โดยเฉพาะการเลือก ‘นม’ ที่มีประโยชน์ และมีสารอาหารจำเป็นอย่างกรดอะมิโนครบถ้วน เพื่อให้สมองและร่างกายของลูกน้อยพัฒนาได้อย่างเต็มที่ และเติบโตเฉลียวฉลาดสมวัย
Share
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
Search
ผลิตภัณฑ์
โปรโมชั่น
ร้านค้าออนไลน์
บทความและกิจกรรม
เกี่ยวกับโฟร์โมสต์
ติดต่อโฟร์โมสต์
ประวัติและวิสัยทัศน์
ร่วมงานกับเรา
มาตรฐานการผลิตนม
นโยบายความเป็นส่วนตัว
สิทธิประโยชน์สมาชิก
สะสมคะแนนแลกของรางวัลสุดพิเศษ
แลกของรางวัล
ผลิตภัณฑ์
โปรโมชั่น
ร้านค้าออนไลน์
บทความและกิจกรรม
เกี่ยวกับโฟร์โมสต์
ติดต่อโฟร์โมสต์
ประวัติและวิสัยทัศน์
ร่วมงานกับเรา
มาตรฐานการผลิตนม
นโยบายความเป็นส่วนตัว
สิทธิประโยชน์สมาชิก
สะสมคะแนนแลกของรางวัลสุดพิเศษ
แลกของรางวัล
สั่งซื้อออนไลน์
นมโฟร์โมสต์ สุขสดชื่นพร้อมดื่มทุกวัน!
ฟรี ชุดโอเมก้าอาชีพในฝัน สำหรับคำสั่งซื้อ 1,800 ฿ ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. – 31 มี.ค. 66
อ่านเพิ่มเติม