พัฒนาการเด็กวัย 1 ขวบ: ประโยชน์สารอาหารในนม UHT บำรุงสมอง เสริมภูมิคุ้มกัน เติบโตสมวัย

คุณแม่ทราบหรือไม่ สารอาหารที่แม่เลือก อาจกำหนดอนาคตของลูกได้ เพราะอาหารและโภชนาการในเด็กเล็กเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาพและสติปัญญาที่ดีในระยะยาว ทั้งความฉลาดทางความคิด (IQ) ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) จากการศึกษาพบว่า หากเด็กเล็กที่มีภาวะขาดอาหารจะมีผลเสียต่อเนื่องไปถึงวัยผู้ใหญ่ทั้งด้านสุขภาพ ไปจนถึงสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต[1,2]

จากการสำรวจของ Southeast Asian Nutrition Surveys(SEANUTS) พบว่า 50% เด็กไทยเสี่ยงขาดสารอาหาร เช่นโปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 และ วิตามินดี เป็นต้น[4] เด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบจะมีโอกาสภูมิคุ้มกันต่ำเสี่ยงป่วยสูง เนื่องจากยังไม่สร้างภูมิคุ้มกันถาวรได้สมบูรณ์เท่าผู้ใหญ่ [22] ดังนั้น การเลือกสารอาหารที่เหมาะสมและมีปริมาณที่เพียงพอให้ลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญ เด็กเล็กอายุเกิน 1 ปี ต้องทานอาหารมื้อหลัก 3 มื้อ อาหารว่าง 2 มื้อ และเสริมด้วยนมเสริมสารอาหาร รสจืด 2-3 แก้วหรือกล่องต่อวัน

ปริมาณสารอาหารที่เด็กควรได้รับแต่ละช่วงวัย [20,21]

ปริมาณสารอาหารที่เด็กควรได้รับแต่ละช่วงวัย
สารอาหาร ปริมาณ
1 - 3 ปี 4 – 5 ปี
พลังงาน (กิโลแคลอรี) 980 1200
ดีเดชเอ + อีพีเอ (มิลลิกรัม) 100-150 150-200
ใยอาหาร (กรัม) 3 9
วิตามินซี (มิลลิกรัม) 25 40
วิตามินเอ (RE) 300 433
วิตามินบี 1 (มิลลิกรัม) 1 1
วิตามินบี2 (มิลลิกรัม) 1 1
แคลเซียม (มิลลิกรัม) 500 700
เหล็ก (มิลลิกรัม) 5 6

ด้วยเหตุนี้ นมUHTเสริมสารอาหาร จึงมีความจำเป็นต่อการเสริมพัฒนาการสมอง สร้างภูมิคุ้มกัน และการเจริญเติบโตที่สมวัยของลูก โดยการเลือกนมUHTเสริมสารอาหาร คุณแม่ต้องคำนึงปริมาณสารอาหารที่จำเป็นและมีปริมาณเพียงพอ ต่อความต้องการในการพัฒนาสมอง สร้างภูมิคุ้มกัน และการเจริญเติบโตทั้ง 3 ด้านของลูกด้วย

สารอาหารที่มีผลต่อการพัฒนาการ บำรุงสมอง [9,10]

ข้อมูลจากงานวิจัยของประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า ช่วงเวลา 1,000 วันแรก เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับเด็กที่ต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอและเหมาะสม ในการพัฒนาสมอง เพื่อให้เด็กได้มีต้นทุนสำหรับการพัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์ การเข้าสังคม และการจัดการด้านอารมณ์อย่างเหมาะสม[11]

  • DHA และ โอเมก้า 3 6 9 : เป็นกรดไขมันที่มีส่วนในการพัฒนาระบบประสาทและสมองโดยมีผลต่อความแข็งแรงของเซลล์ประสาท (membrane integrity) การส่งสัญญาณประสาท (signaling) ซึ่งมีผลต่อความสามารถในการเรียนรู้ ความจำ และการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา[12]
  • สฟิงโกไมอีลิน (Sphingomyelin) : เป็นฟอสโฟลิพิด (phospholipid) ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของกรดไขมัน กลีเซอรอลและฟอสเฟต เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทและเยื่อหุ้มไมอีลิน ช่วยเสริมสร้างเส้นใยประสาทและการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท[13]
  • MFGM (Milk Fat Globule Membrane) : เป็นเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันที่พบในนมแม่ โครงสร้างประกอบไปด้วยโปรตีนและไขมันหลายชนิด ทำหน้าที่ช่วยการพัฒนาสมอง เสริมสร้างเส้นใยประสาทและการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท[14]
  • Vitamin บี12 : วิตามินบี12 ช่วยในการสร้างDNA เซลล์ประสาท และการสร้างปลอกไมอีลิน (Myelination) ซึ่งช่วยการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท[8]
  • โคลีน (Choline) : ช่วยในการสร้างสารสื่อประสาทและการสร้างปลอกไมอีลิน (Myelination)[8]

สารอาหารที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของเด็กยังอยู่ในช่วงพัฒนาและยังไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ การดูแลสุขภาพและการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของเด็กเล็กให้แข็งแรงในช่วงนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการพัฒนาของระบบภูมิคุ้มกันจะค่อยๆเป็นไปตามวัย ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยผู้ใหญ่[18]

  • GOS BIO-ACTIVE : น้ำตาลโอลิโกชนิดที่พบในนมแม่ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ (prebiotics) ช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้ใหญ่ ช่วยในการทำงานของลำไส้ใหญ่ ช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น ช่วยให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซียม ธาตุเหล็ก และแมกนีเซียมเพิ่มขึ้น ช่วยในการป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อ[15]
  • วิตามิน ซี : มีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก ช่วยในการซ่อมแซมและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและcollagen ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร[8]
  • วิตามิน อี : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเม็ดเลือดแดงและหลอดเลือด เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน[8]

สารอาหารที่มีผลต่อการเจริญเติบโต[5,6]

  • แคลเซียม : เป็นส่วนประกอบหลักของกระดูกและฟัน ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ช่วยในการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ทำให้เกิดการหดตัวของเซลล์กล้ามเนื้อทั่วไป รวมทั้งช่วยการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ เด็กอายุ 1-3 ปี ต้องการแคลเซียม 500 มก. เด็กอายุ 4-8 ปี ต้องการแคลเซียม 800 มก.[19]
  • วิตามิน ดี : ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เพิ่มการดูดซึมแคลเซียมของเซลล์ลำไส้ และยังเป็นสารตั้งต้นของการสร้างฮอร์โมนสเตียรอยด์[8]
  • วิตามิน เอ : ช่วยในการมองเห็น ช่วยการเจริญเติบโตของเซลล์ต่างๆ การสร้างเม็ดเลือดแดง การแสดงออกของยีน และยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน[8]
สรุป นมUHT เสริมสารอาหารมีความจำเป็นและมีส่วนสำคัญต่อการเสริมพัฒนาการ บำรุงสมอง สร้างภูมิคุ้มกัน และการเจริญเติบโตที่สมวัยของลูก ดังนั้นคุณแม่จึงมีความจำเป็นที่ต้องเลือก นมUHTเสริมสารอาหาร ที่มีคุณภาพมาตรฐาน และเสริมสารอาหารบำรุงสมองมากกว่า 5 ชนิด มี GOS BIO-ACTIVE และวิตามินซี ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง เมื่อลูกร่างกายแข็งแรงก็พร้อมเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ เติบโตสมวัย

แพทย์หญิง ภณิดา
แสวงศักดิ์

เขียนโดย:

กุมารแพทย์โรคทางเดินอาหารและตับ
โรงพยาบาลพญาไท 3

แพทย์หญิง ภณิดา
แสวงศักดิ์

กุมารแพทย์โรคทางเดินอาหาร
และตับ
โรงพยาบาลพญาไท 3

เขียนโดย:

แพทย์หญิง ภณิดา
แสวงศักดิ์

กุมารแพทย์โรคทางเดินอาหารและตับ
โรงพยาบาลพญาไท 3

เอกสารอ้างอิง

1. Victoria CG, Adria L, Fall C, Hallal PC, Martorell R, Richter L, et al. Maternal and Child Undernutrition Study Group. Maternal and child undernutrition: consequences for adult health and human capital. Lancet 2008;371(9609):340-57.

2. Galler JR, Bryce C, Waber DP, Zichlin ML, Fitzmaurice GM, Eaglesfield D. Socioeconomic outcomes in adults malnourished in the first year of life: a 40-year study. Pediatrics 2012;130:e1-7.

3. อุมาพร สุทัศน์วรวุฒิ, สุภาพรรณ ตันตราชีวธร, สมโชค คุณสนอง, บรรณาธิการ. คู่มืออาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก. โครงการ การจัดทำข้อปฏิบัติการให้อาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของทารกและเด็กก่อนวัยเรียน. กรุงเทพฯ: บียอนด์ เอ็นเทอร์ไพรซ์; 2552.

4. Rojroongwasinkul N, Kijboonchoo K, Wimonpeerapattana W, Purttiponthanee S, Yamborisut U, Boonpraderm A, et al. SEANUTS: the nutritional status and delivery intakes of 0.5-12-year-old Thai children. Br J Nutr 2013;110(Suppl3):S36-44.

5. American Academy of Pediatrics. Pediatric Nutrition. Kleinman RE, Greer FR, editors; 2014.

6. Klish WJ, Forbes GB. Chapter 27: Nutritional Requirements. In APP Textbook pf Pediatric Care.

7. World Health Organization. Energy and protein requirements. Report of a joint FAO/WHO/UNU Expert Consultation. Tech Rep Ser. 1985;724:1-206.

8. Higdon J. An evidence-based approach to vitamins and minerals: Health implications and intake recommendations. New York: Thieme Medical Publishers, 2003.

9. Prado EL, Dewey KG. Nutrition and brain development in early life. Nutrition reviews. 2014; 72:267-84.

10. Georgieff MK, Ramel SE, Cusick SE. Nutritional influences on brain development. Acta paediatrica (Oslo, Norway : 1992). 2018;107:1310-21.

11. Cusick SE, Georgieff MK. The Role of Nutrition in Brain Development: The Golden Opportunity of the “First 1000 Days”. J.Pediatr. 2016; 175:16–21.

12. Carlson SE, Colombo J. DHA and Cognitive Development. J Nutr. 2021 Sep 29;151(11):3265–3266.

13. Schneider N, Hauser J, Oliveira M, et al. Sphingomyelin in Brain and Cognitive Development. eNeuro. 2019 Aug 6;6(4).

14. Hernell O, Timby N, Domellof M, Lonnerdal B. Clinical Benefits of Milk Fat Globule Membranes for Infants and Children. J Pediatr. 2016 Jun:173 Suppl:S60-5.

15. Roberfroid M. Prebiotics: the concept revisited. J Nutr. 2007;137(3 Suppl 2):S830-7.

16. Gaucheron F. นมและผลิตภัณฑ์นม: การผสมผสานสารอาหารจุลธาตุที่เป็นเอกลักษณ์ J. Am. Coll. Nutr. 2011;30:400S–409S. doi: 10.1080/07315724.2011.10719983. [ DOI ] [ PubMed ] [ Google Scholar ]

17. Muehlhoff E., Bennett A., McMahon D. นมและผลิตภัณฑ์นมในโภชนาการของมนุษย์ FAO; โรม อิตาลี: 2013 [ Google Scholar ]

18. Abbas AK, Lichtman AH, Pillai S. Basic immunology: functions and disorders of the immune system. 5th ed. Philadelphia: Elsevier; 2024.

19. สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. ปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2563. กรุงเทพมหานคร : ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ.วี. โปรเกรสซีฟ, 2563.

20. สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวง สาธารณสุข. https://nutrition2.anamai.moph.go.th/web-upload/6x22caac0452648c8dd1f534819ba2f16c/filecenter/mother%20and%20child/29.pdf

21. ปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2563. https://nutrition2.anamai.moph.go.th/webupload/6x22caac0452648c8dd1f534819ba2f16c/202101/m_news/9457/176096/file_download/a72848fb8557732574f6afd877a0a0a3.pdf

21. Janeway, C.A., et al.(2005). Immunbiology, 6th Editition. New York: Garland Science. Figure 11-11. © 2005 Garland Science.

ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม

Share

สะสมยอดซื้อ เพิ่มระดับสมาชิก รับส่วนลดเพิ่มเติมพิเศษแบบจัดเต็ม

เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,999.- รับฟรี! ของแถมตลอดทั้งเดือน เฉพาะวันที่ 1 ธ.ค. 68 – 15 ธ.ค. 68

สมาชิกสามารถใช้คูปองส่วนลดได้ที่หน้าชำระเงิน เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,000 บาทขึ้นไป