DHA ที่ลูกกิน...ไปอยู่ตรงไหนของสมอง?
คำถามยอดฮิตที่หมอเจอเป็นประจำ
แม่: “หมอคะ ลูกหนูกิน DHA ทุกวัน… แต่ยังพูดช้ากว่าเพื่อน ทำไมล่ะคะ?”
หมอ: เพราะหลายบ้าน “ให้ DHA” เหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ไม่เท่ากัน คำตอบไม่ได้อยู่ที่ “กินหรือไม่” แต่อยู่ที่ว่า DHA ไปทำงานตรงไหน และเพียงพอไหม
DHA อยู่ตรงไหนในสมองลูกหรอคะ?
หมอ: บริเวณ Frontal Lobe ซึ่งเป็นจุดที่ควบคุม การคิดวิเคราะห์, ภาษา, การจดจำ และการควบคุมอารมณ์ พบว่ามี DHA เป็นส่วนประกอบถึง 8-14% ของกรดไขมันทั้งหมดในสมองช่วงแรกเกิด[1] ซึ่งสมองของเด็กมีหลายส่วน แต่ “ศูนย์กลางของความคิด ภาษา และอารมณ์” คือส่วนที่เรียกว่า Cerebral Cortex
แม่: แล้ว DHA ทำหน้าที่อะไรหรอคะ?
หมอ: กล่าวง่ายๆ DHA คืออิฐก้อนสำคัญที่สมองใช้ต่อเส้นใยความคิดครับ
ขาด DHA แล้วจะเป็นอย่างไรคะ?
หมอ: เมื่อสมองกำลังขยายเครือข่าย และถ้าไม่มี DHA ที่เปรียบเหมือนอิฐที่เป็นโครงสร้างให้ส่งสัญญาณได้ไว ผลที่ตามมาคือ…
- พัฒนาการด้านภาษา-ความจำอาจช้ากว่าปกติ
- ระบบควบคุมอารมณ์ยังไม่แม่น
- เสี่ยงสมาธิสั้นเมื่อเข้าเรียน
แม่: แล้วเราจำเป็นต้องให้ลูกกิน DHA ทุกวันมั้ยคะ?
หมอ: จากการศึกษาพบว่า การให้ DHA ไม่ต่อเนื่อง หรือในปริมาณต่ำเกินไปในวัย 1–3 ขวบ อาจส่งผลต่อการเชื่อมโยงของสมอง ซึ่งการฟื้นฟูอาจต้องใช้เวลาและอาจไม่สมบูรณ์เต็มที่ครับ[2]
DHA ต้อง “กินให้พอ” และ “ดูดซึมให้ได้”
หมอ: สมองสร้างเส้นใยใหม่ทุกวัน ทำให้เด็กควรมี DHA เข้าไปเสริมทุกวัน แต่ต้องกินแบบที่ดูดซึมได้จริง ด้วย เช่น:
แม่: เช่นอะไรบ้างคะหมอ?
หมอ: DHA ที่ช่วยให้ดูดซึมได้จริงสามารถเสริมได้ดังนี้ครับ
- DHA ที่อยู่ในรูป triglyceride จะดูดซึมได้ดีในลำไส้เด็ก[3]
- เสริม Sphingomyelin, Vitamin B12 ร่วมด้วย เพื่อสร้างเยื่อหุ้มปลายประสาทให้สมบูรณ์
หมอขอสรุป:
DHA ไม่ใช่ยาเร่งฉลาด แต่คือวัตถุดิบพื้นฐานของการ ‘เชื่อมโยงความคิด’ ที่ไม่มีวันกลับไปเริ่มใหม่ได้ ยิ่งเสริมไว ยิ่งต่อสายความคิดได้ไกลกว่าคนอื่นครับ
แม่: หมอมีคำแนะนำในการกิน DHA มั้ยคะ?
หมอ: ขอแนะนำตามนี้ครับ
- ตรวจสอบว่านมหรืออาหารเสริมที่กินมี DHA กี่มิลลิกรัมต่อหน่วยบริโภค
- เลือก DHA ที่มีสารอาหารเสริมพัฒนาการทางสมองอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น Sphingomyelin, B12
- กิน DHA อย่างสม่ำเสมอในช่วง 1–3 ขวบ เพราะจะเป็นช่วงที่สมองสร้างโครงข่ายเร็วที่สุด
คุณแม่สามารถเลือกให้ลูกดื่มนม UHT เสริมสารอาหารที่ออกแบบมาสำหรับช่วงพัฒนาสมอง ควรมี DHA Sphingomyelin และ Vitamin B12 เป็นองค์ประกอบหลัก เพราะนี่คือสารที่ “สมองเด็กต้องการจริง”
นายแพทย์ วรวิทย์
กันทะมาลี
กุมารเวชศาสตร์โรคติดเชื้อ
โรงพยาบาลพญาไท 3
นายแพทย์ วรวิทย์
กันทะมาลี
กุมารเวชศาสตร์โรคติดเชื้อ
โรงพยาบาลพญาไท 3
นายแพทย์ วรวิทย์
กันทะมาลี
กุมารเวชศาสตร์โรคติดเชื้อ
โรงพยาบาลพญาไท 3
ข้อมูลอ้างอิง:
1. Lauritzen L, et al. The essentiality of long chain n–3 fatty acids in relation to development and function of the brain and retina. Progress in Lipid Research (2001)
2. Innis SM. Impact of maternal diet on human milk composition and neurological development of infants. The American Journal of Clinical Nutrition (2007)
3. Dyerberg, J., Madsen, P., Møller, J. M., Aardestrup, I., & Schmidt, E. B. (2010). Bioavailability of marine n-3 fatty acid formulations. Prostaglandins, Leukotrienes and Essential Fatty Acids, 83(3), 137–141.

